สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านตอนก่อนหน้าสามารถไปตำกันที่ลิ้งก์นี้ได้เลยค่ะ https://th.readme.me/p/39977

ส่วนลิ้งก์ตอนที่เกี่ยวข้องอื่นๆ จะแปะไว้ท้ายบทความนะคะ

ตอนนี้เราจะรีวิวเรื่องการเดินทางและไปเที่ยวสถานที่เที่ยวเด่นๆ ของคราคุฟอีก 2 แห่ง คือ Wieliczka Salt Mine และ Auschwitz and Birkenau concentration camps ที่เที่ยวทั้งสองที่นี้อยู่นอกเมืองคราคุฟ ค่ายกักกันอยู่ด้านตะวันตก ส่วนเหมืองเกลืออยู่ด้านตำวันออก ดังนั้นหากมาเที่ยวด้วยตัวเองควรจะแยกวันไปค่ะ แต่ถ้าไปกับทัวร์จะมีทัวร์แบบเดย์ทริปบริการอยู๋

1.Wieliczka Salt Mine

เหมืองเกลือเก่าที่ใช้เวลาขุดแล้วขุดอีก ขุดแล้วขุดอีก จากรุ่นพ่อสู่ลูกนานหลายร้อยปี จนจุดที่ลึกที่สุดอยุ่ที่ 130 เมตรจากพื้นดิน นักท่องเที่ยวต้องเข้าไปชมกับไกด์เท่านั้น มี 2 เส้นทางให้เลือก เราเลือกแบบ Tourist route ที่กินพื้นที่แค่ 1% ของเส้นทางในเหมืองทั้งหมดเท่านั้น รายละเอียการจองตั๋วและราคาสามารถดูได้จากตอนก่อนหน้าค่ะ

ป้ายรถเมล์ที่เราลง

เราไปเส้น Tourist route จึงเดินเข้าไปในซอยค่ะ

โครงสร้างทุกอย่างภายในเหมือง (ยกเว้นไฟฟ้ากับน้ำประปา) คือของดั้งเดิม แต่อายุของมันจะเก่าแค่ไหนขึ้นกับว่าบริเวณนั้นๆ ถูกขุดตอนไหน ภายในเหมืองไม่ต้องมีคนคอยทำความสะอาด ไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างหรืออุปกรณ์อะไรใหม่ แม้แต่ไม้ค้ำยังคงสภาพเดิมของมันไว้ได้ ไม่พุผัง เพราะเกลือรักษาสภาพมันไว้เป็นอย่างดี พื้นทางเดินก็เอาหินเกลือมาทำ ถ้าใครอยากชิมความเค็ม จะลองเลียที่พื้น? หรือเลียกำแพงก็ได้นะคะ เห็นคนมีคนเอาเกลือบนกำแพงมาเลียแล้วบอกว่า เค็มมากกก

พื้นทำจากหินเกลือ

เกลือที่นี่จะมีทั้งเกลือบริสุทธิ์ – สีขาว กับเกลือไม่บริสุทธิ์สีหมองๆ แต่ทั้งสองประเภทสามารถนำมาทำอาหารได้เพราะมีประโยชน์เหมือนกัน

เส้นทางเดินนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ชม.ครึ่ง หลักๆ จะเป็นการเดินลึกลงไปเรื่อยๆ ทีละชั้นๆ ผ่านจุดอธิบายต่างๆ จนถึง 130 เมตรจากพื้นดิน ถ้าถามเราว่าว้าวไหม เราว่ามันเป็นประสบการณ์แปลกใหม่มากกว่า เราเคยไปเดินเที่ยวถ้ำมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเดินในเหมืองจริงๆ และได้เห็นโครงสร้างภายในของมันแต่ละห้อง

ด้านล่างคือส่วนหนึ่งของภายในเหมืองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเมืองย่อมๆ เลยก็ว่าได้

แท่งกลมๆ ด้านบนคือหินเกลือ ที่ทำให้กลมเพื่อสะดวกต่อการขนส่ง

เมื่อจบทัวร์ ใครมีเวลาต่อยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ซื้อของฝากหรือหาอะไรกินในฟู้ดคอร์ดที่ความลึก 130 เมตรต่อได้ด้วย ด้วยความที่เราว่าง เราเลยไปต่อแถวเข้าพิพิธภัณฑ์ต่อ ในใจคิดว่าคงเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ดูแปปเดียวจบ แต่ป๊าดดดดด มันคือการเดินในเหมืองต่ออีกชม.กว่าๆ ภายในจะมีประวัติศาสตร์ซำติงเกี่ยวกับเหมือง ข้าวของเครื่องใช้คนเหมือง และประเภทของเกลือต่างๆ นานา โอ๊ยยย ค่าบัตรนี่คุ้มเลยยย แต่ถ้ามีไกด์ภาษาอังกฤษด้วยจะดีมากก พิพิธภัณฑ์ส่วนนี้ไกด์จะพูดเป็นภาษาโปแลนด์เท่านั้น รายละเอียดที่ตั้งโชว์จะมีภาษาอังกฤษบ้างประปรายแต่ก็น้อยมาก ถ้าเทียบกับที่ไกด์ยืนบรรยาย (แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง)


การเดินทางด้วยรถสาธารณะ

สามารถเดินทางด้วยรถไฟ หรือรถเมล์ แต่รอบรถไฟจะมีน้อยมาก ประมาณ 2 ชั่วโมงรอบหนึ่ง ตอนแรกเรากะจะนั่งรถไฟไป แต่เจ้าหน้าที่ขายตั๋วบอกว่า ต้องรออีกประมาณ 2 ชม.กว่ารอบใหม่จะมา เลยแนะนำให้เราไปนั่งรถเมล์แทน

จุดปล่อยรถบัสสาย 304 อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้าง เราสามารถไปรอรถตรงจุดปล่อยรถ หรือว่าจะมารอที่ป้ายรถเมล์หน้าห้างก้ได้ค่ะ แต่ตอนนั้นเราเปิดแมปแล้วมันบอกให้เดินไปอีกประมาณ 500 เมตรเพื่อไปรออีกป้ายหนึ่ง เรามารู้ตอนขากลับว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องเดินไปเลยยย กูเกิ้ลพาเดินวนอีกแล้วววววว

สำหรับวิธีการซื้อตั๋วรถเมล์ สามารถดูได้จากตอนแรกสุดในลิ้งค์ท้ายบทความได้เลยค่ะ

หลังจากนั่งไปประมาณ 30 นาที ให้เราลงที่ป้าย แล้วเดินตามป้ายบอกทางไปเลย เดินไปง่ายๆ ไม่หลงค่ะ ส่วนตอนขากลับจะไม่ได้ขึ้นมาตรงจุดเดิมที่เราเข้าไป ให้เราถามคนแถวนั้น หรือเปิดกูเกิ้ลหาป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดก็ได้ค่ะ

ต้นสายรถบัสอยุ่ตรงหน้าห้างสรรพสินค้า Galeria Krakowska เลยค่ะ หากเดินผ่านห้างนี้เข้าไป ก็จะทะลุไปยังสถานีรถไฟ และสถานีรถบัสได้พอดี


2. Auschwitz and birkenau concentration camps

เป็นค่ายกักกันของนาซีที่ใหญ่ที่สุด ภายในเวลาไม่ถึง 5 ปี คน 1.1 ล้านคนจาก 1.3 ล้านคนที่ถูกส่งมาตายที่นี่ ประมาณล้านคนในนั้นเป็นชาวยิว

ค่ายกักกันแบ่งเป็น 3 แคมป์หลัก ตอนนี้เปิดให้เข้าชมแค่ 2 แคมป์ คือ แคมป์ 1 หรือ Auschwitz I จะค่อนข้างเล็ก และคับแคบ แต่มีข้อความบรรยาย และนิทรรศการย่อยๆ ตามอาคารต่างๆ

ใครต้องการจะเยี่ยมชมนานๆ และเข้าให้ครบทุกอาคาร แนะนำให้มาสองวันค่ะ แบ่งเป็นวันละแคมป์ มาวันเดียวคือไม่พอจริงๆ ไม่ว่าจะเข้ากับไกด์หรือมาด้วยตวเอง จะอยู่ในค่ายกักกันได้แค่ครั้งละประมาณ 3 ชม.เท่านั้น ซึ่งน้อยมาก ดูได้ม่ละเอียด ต้องรีบเดินเพื่อจะได้มีเวลาไปแคมป์ 2 ต่อไป

จุดขายตั๋ว แต่เราจองมาออไนลน์แล้ว จึงมาต่อคิวเข้าไปข้างในเลย

ภาพข้างล่างคือห้องรมแก็สเพื่อฆ่าคนจำนวนมากให้ตายในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากการกักกันชาวยิวจำนวนมาก ทำให้มีค่าใช้จ่ายเยอะ

ทางเข้า

ห้องอาบน้ำ+รมแก็ส

เตาเผาศพ คนที่ทำหน้าที่เผาก็คือชาวยิวในค่ายกักกันนั่นเอง ทหารนาซีจะคัดเอานักโทษที่เพิ่งมาใหม่มาทำหน้าที่นี้ คนที่ถูกเลือกแย้งอะไรไม่ได้ นอกจากทำไปตามหน้าที่ เพราะการขัดขืนหมายถึงความตายเท่านั้น

ทางออก

ตรงที่จอดรถจะมีป้ายรถเมล์ตั้งอยู่ ตรงนี้คือจุดรอรถบัสไปคราคุฟ และจุดรอรถบัสไปอีกแคมป์หนึ่ง(ฟรี) รถจะมาประมาณทุก 15-30 นาที

แคมป์ 2 ชื่อ Auschwitz II หรือ Birkenau camp อยู่ห่างจากแคมป์แรกประมาณ 2.5 กม. มีรถพิพิธภัณฑ์รับส่งเป็นเวลา เราเกือบเดินไปแล้วว นึกว่ารอนาน เพราะตอนนั้นจะสี่โมงเย็นแล้ว กลัวแคมป์สองปิดก่อน ดีนะ เดินออกจากประตูทางเข้าปุ๊บ รถมาพอดี เลยเลี้ยวกลับไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

บอกคำเดียวว่า ใหญ่มากกกกกกกกกกกก กินพื้นที่เป็นไร่เลยจ้า แต่ส่วนใหญ่กลายเป็นซากหมดล่ะ เพราะตัวอาคารทำด้วยไม้ เลยมีเพียงปล่องไฟที่เหลือรอดมาจนถึงปัจจุบัน

ที่นี่ไม่ค่อยมีป้ายอะไรให้อ่านเหมือนแคมป์แรก เลยได้แต่เดินวนสัมผัสบรรยากาศ แต่เดินวนก็กินเวลานานแล้ว 

เดินจนใกล้มืดก็รีบซอยเท้าออก คนเดินน้อย มืดแล้วเสียวว55 ข้างนอกประตูแคมป์จะมีจุดรอรถบัสระหว่างแคมป์ เมื่อไปถึงแคมป์แรกแล้ว ก็มีรถบัสกลับคราคุฟจอดอยู่พอดี เลยจ่ายเงินแล้วโดดขึ้นเลย ไม่งั้นต้องรอไปอีกชมกว่าๆ รถบัสรอบต่อไปจะมา

รางรถไฟที่ใช้บรรทุกชาวยิวจากทั่้วทุกยุโรปมายังที่นี่

ตู้บรรทุกชาวยิว มันคือตู้ขนส่งของไม่ก็สัตว์ ทุกคนถูกบับคับให้อยู่อย่างแออัดและร้อนอบอ้าวข้างในตลอดการเดินทาง

เมื่อมีรถไฟขบวนใหม่มาถึง คนที่ถูกทหารนาซี "คัดออก" จะต้องเดินผ่านประตูนี้ไป เพื่อตรงไปสู้ห้องรมแก๊ส ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ผู้หญิง และคนแก่ เด็กบางคนก็เดินร้องไห้ ไม่ก็เดินอย่างร่าเริงไปข้างหน้า โดยไม่รู็ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองบ้าง

อาคารในค่าย เข้าใจว่าเป็นอาคารสร้างจำลองขึ้นมา

ตัวอย่างในอาคาร ที่นี่คือเรือนนอน

การเดินทาง

สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟหรือรถบัส ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม.จากสถานีขนส่งคราคุฟ

แต่รอบรถไฟน้อยเหมือนเหมืองเกลือค่ะ แถมสถานีรถไฟยังอยู่ห่างจากค่ายกักกันประมาณ 1 กม.ด้วย ลงท้ายเราเลยเดินไปซื้อตั๋วรถตู้ที่สถานีรถบัส ได้รอบเร็วสุดมา เข้าใจว่ารถบัสและรถตู้แต่ละแบบจะจอดส่งคนละป้ายกัน ขาไปเราเสียค่ารถตู้ 14 Zloty ส่วนขากลับนั่งรถ Lakonij bus ซึ่งเป็นรถบัสแบบเดียวที่เข้ามารับถึงค่ายกักกันเลย ราคา 16 zloty 

จุดซื้อตั๋วรถบัส อยู่ติดกับสถานีรถไฟคราคุฟเลย เจ้าหน้าที่ขายตั๋วจะแจ้งวารถออกกี่โมง และชานชาลาที่เท่าไหร่ หรือถ้าลืม จะดูบนตั๋ซก็ได้ค่ะ มีเขียนไว้เหมือนกัน

เมื่อซื้อตั๋วแล้วให้เดินขึ้นบันไดเลื่อนาข้างบน ด้านขวาของอาคารนี้คือจุดจอดรถตู้ รถบัสค่ะ

รถมาแล้ว บนป้ายเขียนไว้ว่าไปเอาช์วิทซ์ ค่ายกักกันตั้งชื่อตามชื่อเมืองที่มันตั้งอยู๋

ภายในรถ อืมมม สำหรับเรามันไม่ค่อยสะอาด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

รถตุู้พาเรามาส่งที่ป้ายนี้ จากนั้นก็เดินตามซอกซอยเข้าไปต่ออีกประมาณกม.กว่าๆ ก็จะถึงทางเข้าค่ายกักกัน

หมายเหตุ รถบัสและรถตู้ของที่นี่ไม่ได้จำกัดจำนวนคนโดยสารต่อคันรถ หากที่นั่งเต็ม ผู้โดยสารยังสามารถขึ้นมายืนข้างบนได้

ใครที่ต้องการเช็กรอบรถบัส สามารถเช็กหาออกนไลน์ได้ค่ะ 

รีวิวทั้งหมดในซีรีส์นี้มีทั้งหมด 10 ตอนค่า

1 การเดินทางในออสเตรีย และโปแลนด์ https://th.readme.me/p/39977
2 เมือง UNESCO ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เช้าไปเย็นกลับก็ทำได้ https://th.readme.me/p/39994
3 เดย์ทริป Wachau Valley และ Melk Abbey UNESCO 2 แห่งระหว่างเมือง Melk Dürnstein และ Krems https://th.readme.me/p/39997
4 เดย์ทริปไป Budapest เยี่ยมชม Buda castle และโรงพยาบาลใต้ดิน Hospital in the Rock Nuclear Bunker Museum https://th.readme.me/p/39998
5 เดย์ทริปไป Kutna Hora แวะชม Sedlec Ossuary โบสถ์โครงกระดูกอันโด่งดัง กับประสบการณ์ตกรถไฟคนเดียวที่เช็ก! https://th.readme.me/p/40003
6 สองวันในเวียนนา ลัลล้าใน Museum of natural history และ ทำความรู้จักกับ Sisi ใน Hofburg palace และ Schonbrunn palace https://th.readme.me/p/40004
7 ยินดีต้อนรับสู่เมืองคราคุฟ เมืองที่ถูกย้อมด้วยเลือดของชาวยิว เยี่ยมชม Oskar Schindler's Enamel Factory Rynek Underground ใน Kraków โปแลนด์ https://th.readme.me/p/40102
8 ค่ายกักกันเอาช์วิทซ์แห่งความตาย Auschwitz and Birkenau concentration camps และเหมืองเกลือ Wieliczka Salt Mine https://th.readme.me/p/40103
9 เดย์ทริปไป ปราสาทมาลบอร์ก UNESCO ปราสาทยุคกลางที่มีพื้นที่มากที่สุดในโลก Malbork castle Poland https://th.readme.me/p/40104
10 2 วันในวอร์ซอ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิวที Polin Museum และเดินเล่นที่ Łazienki Park https://th.readme.me/p/40105

Duck's journey

 วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 12.37 น.

ความคิดเห็น